5. การติดต่อสื่อสาร
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย สมควรอย่างยิ่งที่จะต้องมีโทรศัพท์ไว้เพื่อทำการติดต่อทั้งภายในและ ภายนอกเพื่อสะดวกและรวดเร็ว ถ้ามีเหตุการณ์ได้เกิดขึ้น
6. มาตรการและวิธีการควบคุมบุคคล
บุคคลสามารถแยกได้เป็น 2 ประเภท ดังนี้
ก. การควบคุมบุคคลภายใน พนักงานของบริษัทฯ จะต้องติดบัตรของบริษัทฯ เพื่อความสะดวกต่อการควบคุมซึ่งทางบริษัทฯ จะต้องร่วมมือกันกับบริษัทฯ รักษาความปลอดภัยให้พนักงานทุกคนติดบัตรที่หน้าอกเพื่อมิให้มีการตรวจค้นหรือสอบถามกันตลอดเวลา ซึ่งบริษัทฯ สามารถแยกสีของบัตรตามความเหมาะสมหรือจะใช้ สีเดียวกันตลอดก็ได้ในกรณีบริษัทฯ ปลดพนักงานออกในกรณีร้ายแรง ซึ่งบริษัทฯ ไม่ต้องการให้บุคคลเหล่านั้น เข้ามาในบริษัทฯ คือ เราสามารถทำได้โดยการที่บริษัทฯ ส่งรูปและรายละเอียดให้แผนกรักษาความปลอดภัยไว้เป็นหลักฐาน ในกรณีที่มีการโยกย้ายหรือปลดออก แผนกบุคคลจะต้องแจ้งให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทราบ เพื่อป้องกันการเข้าออกของบุคคลนั้นในกรณีบัตรหายหรือลืมบัตร ก่อนจะเข้าบริษัทฯ จะต้องให้หัวหน้าแผนก หรือระดับผู้บริหารของบริษัทฯรับรองเสียก่อนถึงจะเข้าได้ มิฉะนั้นจะไม่มีสิทธิเข้าบริเวณบริษัทฯ เด็ดขาด
ข. การควบคุมบุคคลภายนอก บุคคลภายนอก ก่อนที่จะได้รับอนุญาตเข้าในบริษัทฯ/โรงงาน เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจะต้องสอบถามถึงความประสงค์ และให้ผู้มาติดต่อแสดงบัตรเท่าที่บริษัทฯ เห็นว่าสมควร เช่น บัตรประจำตัวประชาชน ใบขับขี่ เป็นต้น ก่อนที่จะอนุญาตและหรือ จะต้องมีแบบฟอร์มในการผ่านเข้า – ออก และส่งคืนเมื่อออกนอกบริเวณบริษัทฯ/โรงงาน
ข้อเสนอแนะ
บริษัทฯ ควรจะจัดสถานที่พิเศษโดยไม่รวมกับเจ้าหน้าที่ ที่ทำงานของบริษัทฯ เพื่อความสะดวกต่อเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจะควบคุมดูแลรับผิดชอบ ไม่ให้เดินไปตามสถานที่ต่าง ๆ ที่บริษัทฯ เห็นว่าเป็นเขตหวงห้ามหรือบริเวณที่สำคัญ
หมายเหตุ
บุคคลดังกล่าวทั้ง 2 ประเภทนี้ สมควรที่จะออกบัตร
1. พนักงานของบริษัทฯ ออกบัตรประจำตัวพนักงาน ให้พนักงานเหล่านั้นติดไว้เพื่อสะดวกต่อ การติดต่อและควบคุมการเข้า - ออก
2. บุคคลภายนอก สมควรที่จะออกบัตรผ่านเข้า – ออก ให้ผู้มาติดต่อไว้เพื่อให้ง่ายต่อการสังเกตการทำบัตรประจำตัวพนักงาน หรือบัตรชั่วคราวให้ผู้มาติดต่อนี้ จะเป็นการบันทึกผู้เข้า – ออก มาติดต่อได้เป็นอย่างดี